Archives

Update ข่าวภาพยนตร์จดหมายรักจากเกิร์นซีย์

Image

จากที่เคยรายงานไปว่าหนังสือที่เต็มไปด้วยตัวละครน่ารักๆ อย่างจดหมายรักจากเกิร์นซีย์ The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society จะได้กลายเป็นภาพยนตร์ โดยมีเคท วินสเล็ตนำแสดง และเคนเนธ บราห์นาห์กเป็นผู้กำกับ ล่าสุดได้มีข่าวว่าบริษัทต้องเปลี่ยนตัวทีมงานหลัก (สงสัยทั้งสองจะไม่ว่างเลย 😦 ) ตอนนี้ชื่อผู้กำกับคือ Simon Curtis ที่ล่าสุดกำกับเรื่อง My week with Marilyn และคนที่จะเล่นเป็นจูเลียตคือ Michelle Dockery หรืิอ Lady Mary ณ Downton Abbey นี่เอง

เห็นข่าวแล้วก็ลุ้นขอให้หนังลงตัวสักทีนะคะ ส่วนตัวก็คิดว่ามิเชลวัยใกล้เคียงกับจูเลียตมากกว่าเคท น่าจะเป็นนักข่าวสาวจอมซ่าแสนน่ารักได้ไม่ยากเลย 😉Image

 

ที่มา http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-2314996/BAZ-BAMIGBOYE-A-hot-potato-Lady-Mary-takes-new-lead-role.html

Update on Guernsey!

มา Update ข่าวจดหมายรักจากเกิร์นซีย์ หรือ The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society. จากที่ Confirm แล้วว่า Kate Winslet จะมาเล่นเป็นจูเลียต และ Kenneth Branagh จะเป็นผู้กำกับ ล่าสุดก็มีข่าวว่ากำลังแคสตัวเด็กน้อยที่จะเล่นเป็นคิต ศูนย์รวมดวงใจของคนบนเกาะ อยากเห็นหน้าจังค่ะ 😉 นอกจากนั้นทีมงานโปรดิวเซอร์ยังยืนยันว่าจะถ่านทำที่เกาะเกิร์นซีย์แน่นอนค่ะ !

http://www.bbc.co.uk/news/world-europe-guernsey-16709291

http://www.bbc.co.uk/news/world-europe-guernsey-16471324

News! จดหมายรักจากเกิร์นซีย์ใกล้เปิดกองถ่าย

Confirm เรียบร้อยแล้ว The Guernsey Literary and Potato Peel pie Society หรือจดหมายรักจากเกิร์นซีย์ ซึ่งได้ Kenneth Branagh มากำกับจะเริ่มถ่ายทำเดือนมีนานี้ และตามที่ลือกัน เคท วินสเล็ทจะมารับบทจูเลียต นักข่าวสาวในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง จูเลียตเดินทางไปสืบหาปริศนาที่เกาะเกิร์นซีย์ การไปพูดคุยกับผู้คนในท้องถิ่นหลายๆ คนก็ทำให้การผจญภัยที่คาดไม่ถึงขึ้น ส่วนใครจะมารับบทชาวเกิร์นซีย์ โดยเฉพาะนายดอร์ซี่ย์ อดัมส์นั้น กระเต็นจะตามสืบมาให้ค่ะ!

http://insidemovies.ew.com/2012/01/13/winslet-branagh-guernsey//13/winslet-branagh-guernsey/

จดหมายรักจากเกิร์นซีย์: หนังสือล่าสุดของเจ้าหญิงเคท

 

หนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษ ได้รายงานว่าเห็นเคท มิดเดลตันออกจากร้านหนังสือบนถนนเคนซิงตัน ไฮสตรีท พร้อมหนังสือนิยาย 2  เล่ม เล่มแรกคือ When God Was a Rabbit ของ Sarah Winman ที่เกี่ยวกับชีวิตและความผูกพันธ์ของพี่น้องคู่หนึ่ง และอีกเรื่องคือ The Guernsey Literary and Potato Peel Pie Society ของ Mary Anne Shaffer / Annie Barrows หรือจดหมายรักจากเกิร์นซีย ที่แปลโดยคุณรสวรรณ พึ่งสุจริต ของกระเต็นเรานี่เอง น่าปลื้มจริงๆ  เคทคงกำลังเพลิดเพลินอยู่กับความรักน่ารักๆ ของจูเลียตและดอว์ซีย์ และสนุกไปกับไหวพริบของชาวเกาะเกิร์นซีย์ คุณผู้อ่านห้ามพลาดนะคะ หนังสือของกระเต็นหาได้ตามร้านในเครือนายอินทร์ หรือสั่งจากเราโดยตรงก็ได้ค่ะ 😉

ที่มาhttp://allaboutkatemiddleton.blogspot.com/2011/08/duchess-of-cambridges-summer-reading.html

 

 

First Chapter: จดหมายรักจากเกิร์นซีย์

จดหมายรักจากเกิร์นซีย์ค่ะ เอาฉบับแรกๆ มาให้ลองอ่านกันนะคะ

จาก ซิดนีย์ ถึง จูเลียต

10 มกราคม 1946

คุณจูเลียต แอชตัน

23 เกลบเพลส

เชลซี

ลอนดอน เอส ดับลิว 3

จูเลียตที่รัก

ยินดีด้วยนะ! ซูซาน สกอตต์เล่าให้ฟังว่าเธอเอานักอ่านที่งานเปิดตัวหนังสือเสียอยู่หมัดเลย อย่างกับล่อพวกขี้เมาด้วยรัมอย่างนั้นเลย เพราะฉะนั้นเธอเลิกวิตกจริตเรื่องการเดินสายโปรโมทหนังสือที่จะเริ่มต้นอาทิตย์หน้าได้แล้วล่ะ

ซูซานกำลังตั้งตารอที่จะพาเธอไปเปิดตัวตามร้านหนังสือต่างๆ ตั้งแต่บาธไปจนถึงยอร์คเชียร์ แน่นอนโซฟีก็กำลังร่ำร้องขอให้ฉันจัดทัวร์โปรโมทหนังสือให้เลยขึ้นไปถึงสก็อตแลนด์โน่นเลย ฉันบอกเธอเสียงแข็งแบบพี่ชายคุยกับน้องสาวว่าเรื่องนี้ต้องคอยดูกันต่อไป ฉันรู้นะว่าโซฟีคิดถึงเธอมาก แต่สตีเฟ่น แอนด์ สตาร์คต้องใจแข็งกับเรื่องพวกนี้จ้ะ

ฉันเพิ่งได้รับยอดขายของอิซซี่ในลอนดอนและปริมณฑลมาเดี๋ยวนี้เอง มันยอดเยี่ยมมาก ต้องขอแสดงความยินดีกับเธออีกครั้งจริงๆ !

รักจ้ะ

ซิดนีย์

จาก จูเลียต ถึง โซฟี สแตรคคัน

12 มกราคม 1946

โซฟีจ๊ะ

ฉันก็อยากเจอเธอมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้ฉันกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ไร้ชีวิตจิตใจ ไร้ซึ่งความต้องการของตัวเองไปแล้ว ซิดนีย์สั่งให้ฉันเดินทางไปโปรโมทหนังสือที่เมืองบาธ คอลเชสเตอร์ ลีดส์ และตามสวนสวยๆ ของเมืองต่างๆ อีกสองสามแห่งที่ฉันก็จำชื่อไม่ได้ ฉันคงแอบแว่บไปหาเธอที่สก็อตแลนด์ไม่ได้หรอก คิ้วของซิดนีย์ต้องขมวดเข้าหากันแน่ๆเธอก็รู้ว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหน ถ้าซิดนีย์แอบย่องตามฉันมาน่ะ

ทำไมฉันถึงได้รู้สึกเศร้าอย่างนี้ก็ไม่รู้นะ ฉันควรจะดีใจที่จะได้อ่านอิซซี่ต่อหน้าผู้ฟังที่ล้วนแต่มีอารมณ์ร่วมตาม เธอก็รู้ว่าฉันชอบคุยเรื่องหนังสือแค่ไหน แถมยังชอบฟังคำชมอีก ฉันน่าจะตื่นเต้นดีใจ แต่ทำไม ฉันกลับรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก หดหู่กว่าตอนช่วงสงครามอีก ทุกอย่างดูพังทลายไปหมดเลยนะ โซฟี: ทั้งถนน ตึกรามบ้านช่อง ผู้คน โดยเฉพาะผู้คนเลย

นี่คงเป็นผลของงานเลี้ยงสุดห่วยที่ฉันไปเมื่อคืนแน่เลย อาหารมันแย่เสียจนฉันกินไม่ได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เตรียมใจเอาไว้แล้ว จริงๆ เป็นเพราะแขกร่วมงานต่างหากที่ทำฉันประสาทกิน คนพวกนั้นทำให้ฉันรู้สึกห่อเหี่ยว หมดกำลังใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยจ้ะ ส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องระเบิดลง ผู้คนที่อดอยากหิวโหย เธอจำยัยซาร่าห์ มอร์ครอฟท์ได้ไหม หล่อนก็ไปด้วยนะ ผอมจนกระดูกโผล่เลย เห็นแล้วขนลุก ไหนจะทาลิปสติกสีแดงแช้ดน่าเกลียดนั่นอีก ยัยนี่เคยสวยไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นยังเห็นหล่อนคลั่งเจ้าหนุ่มนักขี่ม้าที่ย้ายขึ้นไปเคมบริดจ์เลย แต่เมื่อคืนฉันไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา ตอนนี้หล่อนแต่งงานกับคุณหมอที่หน้าตาผิวพรรณหม่นหมอง แต่พอเทียบกับหนุ่มโสดที่นั่งคู่ฉันที่โต๊ะอาหารแล้ว อีตาคุณหมอนั่นกลายเป็นนักรักร้อนแรงไปเลย หนุ่มโสดคนนั้น คงเป็นหนุ่มโสดคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในโลกแล้วล่ะสิ โอ้ พระเจ้า ทำไมฉันถึงได้ปากคอเราะร้ายอย่างนี้!

ฉันสาบานได้นะโซฟี ฉันต้องผิดปกติแน่ๆ ผู้ชายทุกคนที่ฉันเจอช่างไม่ไหวเอาเสียเลย บางทีฉันควรลดมาตรฐานของตัวเองลง แต่จะไปโทษสงครามก็คงไม่ได้ ก็ก่อนนั้นฉันก็ไม่เคยมีโชคเรื่องผู้ชายเลยนี่นา

เธอว่าพ่อหนุ่มช่างซ่อมท่อทำความร้อนที่เซนต์ สวิธินนั่นเป็นรักแท้ของฉันหรือเปล่า แต่ฉันไม่เคยได้พูดกับเขาสักคำเลยนี่ มันคงเป็นไปไม่ได้ มันเป็นแค่ความหลงใหลที่ไม่มีความผิดหวังมาทำให้เสียอารมณ์ เขามีผมดกดำสลวยจริงๆ ต่อจากเขาแล้ว เธอจำปีของพวกกวีได้หรือเปล่า ซิดนีย์ชอบจิกกัดพวกนั้นเหลือเกิน ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนแนะนำให้ฉันรู้จักพวกนั้นเอง จากนั้นก็เป็นเอเดรียนที่น่าสงสาร อ้อ ฉันคงไม่ต้องสาธยายเรื่องนี้ให้เธอฟังแล้วล่ะ แต่โซฟีจ๋า เกิดอะไรขึ้นกับฉันเหรอ นี่ฉันเลือกมากเกินไปรึเปล่า ก็ฉันไม่อยากแต่งงานเพียงเพราะสักแต่ว่าแต่งๆ ไปนี่ ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรที่น่าโดดเดี่ยวไปกว่าการใช้ชีวิตร่วมกับใครบางคนที่ฉันไม่สามารถคุยด้วยได้ หรือที่แย่ยิ่งกว่าก็กับใครที่ฉันไม่สามารถนั่งเงียบๆ ด้วยได้น่ะสิ

ฝากความรักถึงอเล็กซานเดอร์ด้วยจ้ะ ส่วนของเธอต้องได้มากกว่าอยู่แล้ว

จูเลียต
จาก ดอว์ซีย์ อดัมส์ เกิร์นซีย์ หมู่เกาะในช่องแคบอังกฤษ ถึง จูเลียต

12 มกราคม 1946

สวัสดีครับ คุณแอชตัน

ผมชื่อดอว์ซีย์ อดัมส์ครับ ผมทำไร่อยู่ในเขตเซนต์มาร์ติน บนเกาะเกิร์นซีย์ ผมรู้จักคุณได้ก็เพราะซื้อหนังสือเก่าที่เคยเป็นของคุณมาก่อนชื่อ ซีเล็กเท็ต เอสเซย์ส ออฟ อีเลีย ที่เขียนโดยชาร์ลส์ แลมบ์ มีทั้งชื่อและที่อยู่ของคุณเขียนอยู่ข้างในหน้าปกครับ

ผมขอสารภาพตรงๆ ว่าผมชอบชาร์ลส์ แลมบ์มาก หนังสือที่ผมมีๆ คำว่า ซีเล็กเท็ตเขียนอยู่ อย่างนี้ก็น่าจะแปลว่ามีงานเขียนเล่มอื่นๆ ของเขาอีกใช่ไหมครับ ผมอยากอ่านมันมาก ถึงพวกเยอรมันจะออกไปจากเกาะไปแล้ว แตตอนนี้่ก็ยังไม่มีร้านหนังสือบนเกาะเกิร์นซีย์เลยแม้แต่ร้านเดียว

ผมอยากจะขอความกรุณาจากคุณครับ คุณพอจะช่วยส่งรายชื่อร้านหนังสือในลอนดอน พร้อมที่อยู่มาให้ผมได้ไหมครับ ผมอยากสั่งซื้อหนังสือของแลมบ์มาอ่านทางไปรษณีย์ ผมอยากทราบด้วยว่าเคยมีใครเขียนชีวประวัติของเขาบ้างหรือเปล่า ถ้ามี ผมก็อยากให้ทางร้านช่วยหาให้ผมสักเล่ม เพราะดูจากความคิดที่แจ่มชัดและเข้าใจโลกของเขาแล้ว ผมว่าแลมบ์คงต้องผ่านความโศกเศร้าในชีวิตมามากทีเดียว

ชาร์ลส์ แลมบ์ทำให้ผมหัวเราะได้ในช่วงที่เกาะถูกเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะตอนที่เขาเขียนเรื่องหมูย่าง สมาคมวรรณกรรมและพายเปลือกมันฝรั่งแห่งเกิร์นซีย์ของเรา ก็ถือกำเนิดขึ้นเพราะหมูย่างที่พวกเราแอบเก็บไว้เป็นความลับไม่ให้พวกเยอรมันรู้ครับ เพราะอย่างนี้ผมเลยรู้สึกใกล้ชิดกับเขาเป็นพิเศษ

ผมต้องขอโทษที่เขียนมารบกวนนะครับ แต่ถ้าไม่ทำ ตัวเองคงจะเสียใจมากในภายหลัง เพราะจะไม่มีวันได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลย งานเขียนของเขาทำให้ผมกลายเป็นเพื่อนกับเขาไปแล้วโดยปริยาย

หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวนคุณจนเกินไปนะครับ

ดอว์ซีย์ อดัมส์